วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรม CRA Town Hall Meeting ภายใต้แนวคิด CHANGE for CHANCEs กับการปรับครึ่งแผนยุทธศาสตร์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2568-2570 การกำหนดตัวชี้วัดระดับองค์กร และการปรับโครงสร้างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิงจุฑามณี สุทธิสีสังข์ รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กำกับดูแลด้านยุทธศาสตร์ นโยบาย แผนและงบประมาณ โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ และการจัดตั้งคณะเภสัชศาสตร์ และศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์อร่าม โรจนสกุล ที่ปรึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมแถลงการปรับครึ่งแผนยุทธศาสตร์ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนดำเนินงานแบบมุ่งเป้าให้บรรลุเป้าหมายตามปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจองค์กร และสนองพระนโยบายขององค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมทั้งแถลงการจัดตั้งส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และการจัดตั้งแบ่งหน่วยงานภายในส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในปี พ.ศ. 2568 โดยมีคุณจริยา ปัญญา รักษาการผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กล่าวรายงาน ในโอกาสนี้ มีผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าร่วมรับฟัง ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน และผ่านระบบออนไลน์
สำหรับการปรับครึ่งแผนยุทธศาสตร์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2568 – 2570 เพื่อขับเคลื่อนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ด้วยการนำ 5 ยุทธศาสตร์ คือ S1การจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนที่ตอบสนองความต้องการของประเทศ S2 การสร้างความเป็นเลิศด้านการวิจัยและนวัตกรรมเชิงสุขภาพเพื่อความยั่งยืน S3 การสร้างบริการสุขภาพที่เป็นเลิศ S4 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำและ S5 องค์กรสมรรถนะสูงเพื่อความยั่งยืน บูรณาการขับเคลื่อนเชื่อมโยงกันมุ่งสร้างสุขภาวะที่ดีและเท่าเทียมเพื่อทุกชีวิต ด้วยวิทยาการขั้นสูง นวัตกรรมและความเป็นเลิศ ซึ่งการจะทำให้ประสบความสำเร็จบรรลุตามตัวชี้วัดขององค์กรได้นั้น ต้องอาศัยการทำงานของทุกภาคส่วนด้วยความร่วมมือและบูรณาการร่วมกันในทุกส่วนงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและพัฒนาให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ไปสู่เป้าหมายของการเป็นศูนย์กลางการศึกษาและวิจัยสู่ความเป็นเลิศด้านวิชาการและวิชาชีพ เพื่อบริการมวลมนุษยชาติอย่างยั่งยืน