ข้อแนะนำเบื้องต้นในการฟื้นบำรุงผิวจากอาการผิวไหม้แดด ด้วย 5 เคล็ดลับดี ๆ ดังนี้
1. ทาครีมบำรุงผิว
2. ใช้หมวกหรือร่ม เมื่อต้องโดนแดดช่วงกลางวัน
3. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
5.หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง ช่วงเวลา 9.00 – 16.00 น.
นอกจากปัญหาอากาศร้อนแล้ว ฝุ่น PM 2.5 ก็สามารถส่งผลต่อระบบผิวหนังได้ โดย PM 2.5 อาจทำให้เกิดผื่นแพ้ผิวหนัง ผิวหนังอักเสบ มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยเด็ก หรือผู้ป่วยที่มีโรคผิวหนังอยู่แล้ว เช่น โรคผื่นแพ้สัมผัส ผิวแห้ง โรคสะเก็ดเงิน
อาการทางผิวหนังที่ควรพบแพทย์
ภาวะผื่นแดง หากเกิดจากการโดนแดดหรืออากาศร้อน โดยส่วนใหญ่มักหายได้เอง โดยผู้ป่วยจะมีอาการผื่นแดงชั่วคราว 1 – 2 ชั่วโมง แต่หากหลังจากเผชิญอากาศร้อนๆ แดดแรงๆ แล้วเกิดอาการแสบไหม้ ยังคงอยู่ข้ามวัน ควรมาพบแพทย์
วิธีการป้องกันผิวหนังจากอากาศร้อน + PM 2.5
ผู้ป่วยที่อาการผิวหนังอักเสบอยู่เดิมหรือเป็นโรคผิวหนังอยู่แล้ว อาจจะใช้วิธีดังนี้
1.ใส่เสื้อผ้าที่ปกผิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หรือใส่หน้ากากที่ช่วยป้องกัน PM 2.5 ได้
2.ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม จะช่วยป้องกันแสงแดดได้ดี แต่จะระบายความร้อนได้น้อยกว่าเสื้อผ้าสีอ่อน
3.ครีมกันแดด การทาครีมกันแดดให้ได้ประสิทธิภาพ ควรทาปริมาณ 2 ข้อนิ้ว ต่อการทา 1 ครั้ง สำหรับใบหน้า หรือหากมีกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ เช่น ว่ายน้ำ ดำน้ำ อาจต้องทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เนื่องจากครีมกันแดดเป็นเสมือนปราการปกป้องผิว ดังนั้นเวลาที่โดนแสงแดดครีมกันแดดก็จะเสื่อมสภาพไป
4.ผิวไหม้แดด หรือ Sunburn หากมีอาการแสบร้อน อาจใช้ Cold pack หรือถุงน้ำแข็งประคบบริเวณที่มีอาการแสบร้อน โดยส่วนใหญ่อาการแสบร้อนมักอยู่ประมาณ 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นหากมีอาการผิวหนังลอก แสบคันมาก แนะนำให้มาพบแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาที่ช่วยให้อาการแสบร้อนผิวไหม้จากแดดได้ดีขึ้น
ผิวหนังและเลเซอร์ ชั้น1 ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ
