เคยสังเกตไหมว่า เวลาเรามองไปข้างหน้าแล้วรู้สึกไม่สบายตา มีตะกอน หรือเป็นหยากไย่เกิดขึ้นจะเป็นจุดลอยไปลอยมา ถ้ามีอาการเหล่านี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นวุ้นในตาเสื่อม เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นวุ้นในตาเสื่อมหรือไม่ หรือว่ามีคนที่เป็นแล้ว ต้องเรียนรู้เรื่องนี้ไปด้วยกัน
วุ้นตา เป็นส่วนประกอบในลูกตาของเรา ลูกตาของคนเราเปรียบเสมือนกล้องถ่ายรูป กระจกตา เลนส์ตา ก็คือเลนส์กล้อง ตัวจอประสาทตาเปรียบเสมือนฟิล์มกล้องถ่ายรูป
ตัววุ้นตาจะอยู่ระหว่างตัวเลนส์กับตัวจอประสาทตา มีหน้าที่ในการคงภาวะตัวลูกตาไว้ ที่เราเรียกว่าวุ้นเพราะว่ามีส่วนประกอบหลักคือน้ำ ลักษณะก็จะใสเหมือนวุ้น เหมือนเยลลี่ที่เราใช้คำว่าเสื่อม เพราะสิ่งเหล่านี้เสื่อมตามสภาพ ตัวภาวะวุ้นตาที่เสื่อมก็อาจเกิดเป็นตะกอนขึ้นมา พอเกิดเป็นตะกอนขึ้นมามันก็เกิดเป็นเงา เวลาที่เรามองพื้นสว่างๆ พื้นขาวๆ มองท้องฟ้า บางคนอ่านหนังสือใต้โคมไฟ หรือบางคนตื่นขึ้นมาแล้วมองไปเพดานห้องสว่างๆ อาจจะมองเห็นเหมือนจุดลอยไปลอยมา หรือบางคนก็แล้วแต่จินตนาการ เหมือนหยากไย่ใยแมงมุมลักษณะเด่นๆ คือ
1. ภาพจะไม่อยู่กับที่จะลอยๆ บางคนก็จะพยายามจับ
2. ภาวะที่มีแสงน้อยๆ กลางคืนอาจจะไม่ค่อยเห็น หากเกิดภาพลอยบนจอประสาทตาก็อาจทำให้เกิดเป็นแสงได้ ก็จะเป็นอาการเตือน ว่าเราก็กำลังมีปัญหาวุ้นตาเสื่อม
อาการวุ้นในตาเสื่อมเกิดจากอะไร
ส่วนใหญ่เริ่มจากความเสื่อม คนไข้ส่วนใหญ่อายุ 40-50 ปี ก็จะเริ่มเสื่อม แต่ก็จะมีบางปัจจัย เช่น ภาวะสายตาสั้นมาก จากภาวะสายตาสั้น ตัวตะกอนวุ้นตาจะเสื่อมเร็วกว่าคนปกติ หรือบางคนเคยผ่าตัดมาก่อน หรือเคยประสบอุบัติเหตุกระทบกระแทกที่บริเวณตา
ภาวะในวุ้นตาเสื่อมในกลุ่มคนที่มีค่าสายตาสั้นมากๆ คือตัวขนาดลูกตาเราอาจจะมีขนาดใหญ่กว่าคนปกติ วุ้นตาก็อาจจะเสื่อมเร็วกว่าปกติ
อาการที่ควรไปพบแพทย์
ผู้ป่วยส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มีปัญหาอันตรายอะไร ในเรื่องของตัววุ้นตาที่มันเสื่อมคนที่มีปัญหาคืออยู่ๆ เห็นเป็นภาพเหมือนมีก้อนอะไรใหญ่ๆ ขึ้นมา หรือมีอะไรมาบดบังสายตา อาการนี้ต้องระวัง ภาวะที่สำคัญที่สุดคือ ภาวะประสาทตาฉีกขาด ซึ่งต้องได้รับการตรวจ แต่ส่วนใหญ่แล้วบางคนก็จะเริ่มรำคาญ พอไปตรวจละเอียดแล้ว ก็จะพบว่าวุ้นตาเสื่อม ปัญหาส่วนใหญ่ของอาการคือ ทำให้เกิดความรำคาญสายตา เช่น เวลาทำกิจกรรมในพื้นที่ที่มีแสงสว่างจ้าๆ ก็จะมีภาพก็จะเกิดความรำคาญ
จากสาเหตุภาวะสายตาสั้น หรือจากการใช้สายตาของคนเรานี้สาเหตุจริงๆ ของวุ้นตาเสื่อมมาจากอะไร จากที่มีการสอบถามมาว่ากลุ่มพวกที่ชอบเล่นโทรศัพท์มือถือ อ่านหนังสือ กลุ่มผู้ที่ใช้สายตามากกว่าคนปกติ มักมีผลเกี่ยวด้วยหรือไม่ จริงๆ แล้วไม่ใช่สาเหตุโดยตรง ส่วนใหญ่ปัญหาของการใช้สายตามากกว่าปกติก็อาจจะทำให้เกิดอาการปวดตา ตาล้า แต่อย่างที่คุณหมอบอกว่าเวลาที่เราเกิดอาการวุ้นตาเสื่อม ท้ายที่สุด มันจะไปถึงขั้นจอประสาทตาฉีกขาด คือตัวตะกอนวุ้นตาพอตกตะกอนรวมกันเป็นก้อน ถ้าลอยไปลอยมาไปบดบังการมองเห็น เป็นหยากไย่ใยแมงมุมม แต่ถ้าไปดึงรั้งจอประสาทตา หรือไปเกาะ หรือลอกออกทั้งหมดก็เหมือนกาวที่เราเอาไปติดกระดาษมันก็จะพยายามดึงกระดาษจนกระทั่งกระดาษขาด
วิธีการรักษา
ถ้าได้รับการตรวจอย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นเรื่องตะกอนวุ้นตาเสื่อมอย่างเดียว ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาโดยการนัดติดตามอาการ ไม่ถึงขั้นต้องทำอะไรกับลูกตา แพทย์ก็จะติดตามอาการว่ามีอาการมากขึ้นหรือไม่ ปัจจุบันยังไม่มียาตัวไหนที่จะช่วยรักษาอาการภาพลอยไปลอยมาได้ เพราะมันเกิดจากความเสื่อมของตา กรณีที่ตรวจอย่างละเอียดแล้วว่าเคสผู้ป่วยไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดปัญหาภาวะโรคแทรกซ้อนอะไร
กรณีที่ต้องการรักษามีวีธีการรักษาให้หายได้หรือไม่
ถ้าเป็นสมัยก่อนแพทย์จะแนะนำคนไข้เข้ารับการผ่าตัด เพื่อตัดตัวตะกอนในตาออก แพทย์ก็จะประเมิน ข้อดี ข้อเสีย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะมีข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะฉะนั้นในกลุ่มที่มีอาการไม่ได้รุนแรงมาก แค่ที่สร้างความรำคาญ ซึ่งแพทย์ประเมินแล้วไม่ได้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดจอประสาทตาหลุดลอก ก็อาจไม่แนะนำให้ แต่เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีการรักษาค่อนข้างดี ก็สามารถยิงเลเซอร์เพื่อสลายตัวตะกอนวุ้นตาได้ ซึ่งปัจจุบันผลการรักษาก็จะค่อนข้างดีประมาณ 80-90% ในการยิ่งเลเซอร์เพียงแค่ครั้งเดียวคนไข้ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของการเห็นภาวะลอยไปลอยมาอีก หรืออาจจะมีเห็นแต่ขนาดภาพก็จะเล็กลง
1. หากผ่านการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์แล้วอาการตะกอนวุ้นตาบดบังการมองเห็นของสายตาจะกลับมาใด้อีกหรือไม่
ส่วนใหญ่ 80-90% อาการไม่กลับมาเป็นซ้ำ การทำเลเซอร์คนไข้จะไม่เจ็บไม่ได้เป็นการผ่าตัดไม่ต้องเข้าห้องผ่าตัด สามารถทำได้ที่ห้องตรวจจักษุแพทย์ได้เลย แต่ต้องมีการขยายม่านตาก่อนการทำเลเซอร์ ซึ่งแนะนำให้ผู้ป่วยมีญาติมาด้วยไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากตัวรูม่านตาของคนเราทำหน้าที่เหมือนชัตเตอร์กล้องถ่ายรูป มีหน้าที่ในการควบคุมแสงไม่ให้แสงผ่านเข้ามาในดวงตามากเกินไป หากแสงจ้ามากเกินไปตัวรูม่านตาก็จะทำหน้าที่ในการหดตัวเพื่อที่จะให้แสงผ่านเข้าตาน้อยลง แต่สำหรับในช่วงกลางคืนภาวะที่มีแสงน้อยตัวรูม่านตามก็จะขยายใหญ่ขึ้น เพื่อที่จะให้ได้รับแสงเข้ามายังดวงตามากขึ้น เพราะฉะนั้นวิธีการรักษาด้วยวิธีการยิงเลเซอร์ ที่ตัวตะกอนวุ้นตา เราก็จะทำการขยายม่านตาที่ดวงตาคนไข้ ซึ่งการขยายม่านตาก็จะไม่เจ็บ มีการหยอดยาชาให้ผู้ป่วยก่อน จากนั้นรอสักประมาณ 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมง แล้วแต่คนไข้ว่าขยายม่านตาได้ง่ายหรือยาก หลังจากนั้นแพทย์ก็จะทำการยิงเลเซอร์ เข้าไปหาตัวตะกอนวุ้นตาตรงจุดที่มันมีขนาดใหญ่เพื่อลดขนาดของตัวตะกอนวุ้นตา พอขนาดลดลงก็จะไม่บดบังการมองเห็น ใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมงพอฤทธิ์ยาขยายม่านตาหมดก็จะเป็นปกติสายตาก็สามารถมองเห็นภาพได้เป็นปกติ
2. สำหรับคนที่เป็นตาอักเสบบ่อยๆ จะมีโอกาสเป็นโรควุ้นตาเสื่อมมากกว่าคนทั่วไปหรือไม่
ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ แต่โรคตาอักเสบนี้เป็นได้หลายสาเหตุ
3.โรควุ้นตาเสื่อม ส่วนใหญ่ในช่วงกลางคืนหรือสถานที่มืดอาการจะไม่ออกชัดมากเท่ากับบริเวณกลางแจ้ง ที่มีแสงสว่างมากๆ
แพทย์อยากจะเน้นย้ำว่าถ้าเริ่มมีอาการผิดปกติทางสายตาสิ่งที่ดีที่สุดคือ ควรมาพบแพทย์ก่อน ถือว่าเป็นการตรวจสุขภาพสายตาไปก่อน ซึ่งถือได้ว่าดวงตาเป็นอวัยวะที่เราใช้งานเยอะที่สุดต่อวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.พรพัฒนะ วิจิตรเวชไพศาล
แพทย์เฉพาะทางด้านจักษุวิทยา มะเร็งตา ตาเข จักษุวิทยาเด็ก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์