“ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เทิดไท้องค์ราชัน” สืบสาน-รักษา-ต่อยอด พระราชปณิธาน สร้างสรรค์นวัตกรรมบริการสุขภาพเพื่อปวงชน

💛 “ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เทิดไท้องค์ราชัน” สืบสาน-รักษา-ต่อยอด พระราชปณิธาน สร้างสรรค์นวัตกรรมบริการสุขภาพเพื่อปวงชน ร่วมจัด ๘ โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เพื่อมุ่งสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชนด้วยวิทยาการขั้นสูง นวัตกรรมและความเป็นเลิศ และร่วมแสดงความจงรักภักดีเนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

โครงการที่ ๑ โครงการประเมินสภาพปอดด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งเสริมการนำนวัตกรรมบริการสุขภาพมาใช้ในการประเมินสุขภาพปอดของคนไทยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้านมลภาวะทางอากาศของฝุ่นละอองจิ๋ว PM ๒.๕ โดยจะให้บริการ จำนวน ๗๒๐ ราย เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคปอดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดำเนินโครงการโดย โรงเรียนรังสีเทคนิค คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

โครงการที่ ๒ โครงการวินิจฉัยและอ่านผลการตรวจอัลตราซาวด์ให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมระบบบริการสุขภาพทางไกลและพัฒนาบุคลากรในสาขาที่ขาดแคลนให้มีความรู้เชี่ยวชาญเพื่อสามารถให้บริการตรวจและวินิจฉัยผลอัลตราซาวด์แก่ผู้ป่วยในท้องถิ่นห่างไกล โดยโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้ตั้งเป้าหมายในการให้บริการวินิจฉัยและอ่านผลผู้ป่วยในโครงการ จำนวน ๑,๗๒๐ ราย

โครงการที่ ๓ โครงการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเต้านมด้วยนวัตกรรมรถอัลตราซาวด์เต้านมสามมิติ (3D-ABUS) และแมมโมแกรม ส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาใช้ในการดูแลสุขภาพประชาชนด้านการป้องกันโรคมะเร็ง โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ร่วมกับวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ได้ออกแบบระบบบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยนำนวัตกรรมรถอัลตราซาวด์เต้านมสามมิติและแมมโมแกรม พร้อมระบบ AI ร่วมวินิจฉัยกับรังสีแพทย์ ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์นวัตกรรมสุขภาพจากบุคลากรราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ที่ได้รับรางวัลจากเวทีประกวดนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติ นำมาใช้ในการออกหน่วยลงพื้นที่สู่ชุมชนเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในสตรีกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาส ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครโซนเหนือ จังหวัดปทุมธานีและนนทบุรี จำนวน ๗๒๐ ราย โดยมุ่งหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้กับประเทศไทยและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมในพื้นที่ห่างไกลต่อไป

โครงการที่ ๔ โครงการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี หนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งตับ ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากอันดับ ๑ ของประเทศไทย โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้จัดทำโครงการบริการวิชาการและวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนได้ตระหนักถึงภัยของไวรัสตับอักเสบและให้บริการตรวจคัดกรองไวรัสตับอักเสบบีและซี จำนวน ๗๒๐+ ราย ในวันที่ ๒๕-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการตรวจคัดกรองที่สะดวก รวดเร็ว รู้ผลทันที เพื่อป้องกันตนเองและลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับแข็งและมะเร็งตับในอนาคตต่อไป

โครงการที่ ๕ โครงการพยาบาลศาสตร์อาสาเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ เรื่อง การเสริมสร้างสุขภาพและการดูแลตนเองของผู้สูงอายุในชุมชน ดำเนินโครงการโดย วิทยาลัยพยาบาลศาสตร์อัครราชกุมารี ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุในชุมชนเมือง ให้ผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจ และเตรียมพร้อมในการดูแลตนเอง เพื่อสร้างชุมชนผู้สูงอายุที่เข้มแข็งและมีสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

โครงการที่ ๖ โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำงานเพื่อสังคม “สร้างสุขภาพดี ด้วยวิถีแพทย์แผนไทย” ดำเนินโครงการโดย วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ส่งเสริมการดูแลสุขภาพประชาชนโดยให้ความรู้และฝึกปฏิบัติในการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นการแพทย์แผนไทยมาใช้ในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน

โครงการที่ ๗ โครงการหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ โดยกำหนดการออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาสุขภาพประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ระหว่างวันที่ ๒๔ – ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๗

โครงการที่ ๘ โครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ โดยได้ดำเนินการปลูกต้นไม้ อาทิ ต้นรวงผึ้ง ต้นสัก ต้นยางนา ต้นมะค่า จำนวน ๗๒๐ ต้น ณ ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หน่วยพิทักษ์ป่าหนองเสือ อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๗ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการมุ่งรักษาและต่อยอดตามแนวทางศาสตร์พระราชาในการที่จะช่วยกันรักษาผืนดิน ผืนน้ำ ผืนป่า ให้อยู่อย่างยั่งยืน