สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ไปทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ไปทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๕.๐๐ น. ณ อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์


พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก อยู่ในพระราชอิริยาบถทรงยืน ประทับคู่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประทับพระเก้าอี้ทางเบื้องขวา การหล่อด้วยเทคนิคโลหะทองแดง ขนาด ๑.๕ เท่าของพระองค์จริง แท่นประดิษฐานพระราชานุสาวรีย์ ออกแบบเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ผสมผสานศิลปกรรมตะวันตก จากแนวคิดที่ทั้งสองพระองค์ได้นำความรู้ด้านสาธารณสุขจากต่างประเทศมาพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย โดย สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระองค์ทรงได้รับการยกย่องเป็น “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย” และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ทรงได้รับการเฉลิมพระเกียรติในฐานะ“พระมารดาแห่งการแพทย์ชนบท” พระราชานุสาวรีย์แห่งนี้ยังแสดงถึงความรัก ความผูกพัน และพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของทั้งสองพระองค์ ที่ทรงอุทิศพระวรกายและพระราชหฤทัยเพื่อการแพทย์และการสาธารณสุขของไทย นอกจากนี้ ลวดลายบนแท่นได้ออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์ของดอกนาร์ซิสซัสซึ่งเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งคนไทยทุกคนเทิดทูนพระองค์ท่านในฐานะสมเด็จย่าทรงโปรด ด้านหลังแท่นประดิษฐาน มีแผ่นจารึกข้อความจากพระราชดำรัส สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ความว่า ขอท่านถือสุภาษิตว่า “ใจเขาใจเรา” ท่านอยากได้ความสบายแก่ตัวท่านอย่างไร ก็ควรพยายามให้ความสบายแก่คนไข้อย่างนั้น และหลักคำสอนของสมเด็จย่า “จงมีความนึกคิดและปฏิบัติ ในทางที่ดี ที่ถูก ที่เหมาะสม อยู่เสมอ” ทั้งนี้ พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประดิษฐานอยู่ ณ อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นอาคารสูง ๑๒ชั้น ซึ่งใช้สำหรับจัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างแพทยศาสตรบัณฑิตที่เป็นผู้นำและนักวิจัยทางวิชาชีพด้านสุขภาพ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการแพทย์ การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ตามพันธกิจการดำเนินงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมีอาคารหอพักนักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สูง ๑๘ ชั้นตั้งอยู่ติดกัน

ทั้งนี้ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดสร้างขึ้นจากพระดำริของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อนำมาประดิษฐานอยู่ภายในพื้นที่โครงการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ส่วนต่อขยายเพิ่มเติมการให้บริการทางการแพทย์ ขนาด ๔๐๐ เตียง โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติทั้ง ๓ พระองค์ ที่ทรงมีคุณูปการต่อปวงชนชาวไทย ทั้งในด้านการศึกษา การพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการแพทย์แผนปัจจุบัน การพยาบาลและการสาธารณสุขของประเทศไทย อีกทั้งเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นแรงบันดาลใจให้บุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมน้อมรำลึกถึงพระเมตตาและดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทแห่งแนวพระราชดำริสืบไป