สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทอดพระเนตรนิทรรศการภายใน หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ณ ชั้น ๑ อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ ณ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
หอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจที่สำคัญทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ และราชสกุลมหิดล ที่ทรงมีคุณูปการต่อปวงชนชาวไทยในการวางรากฐานด้านการศึกษา การพัฒนาการแพทย์แผนปัจจุบัน การสาธารณสุขไทย และเพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์แก่บุคลากร นักศึกษาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการสืบสานรักษาดำเนินตามรอยพระยุคลบาทในการบำเพ็ญตนมุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชนให้มีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ได้มาตรฐาน ตลอดจนเป็นแรงบันดาลใจในการส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้และส่งเสริมการสร้างสุขภาวะที่ดีแก่ประชาชนด้วยวิทยาการขั้นสูงนวัตกรรมและความเป็นเลิศ ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยภายในจำลองทางเข้าเป็นซุ้มประตูวิเศษไชยศรี ซึ่งเป็นประตูทางเข้าออกพระบรมมหาราชวังที่สำคัญที่สุด ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้มีความรู้สึกเสมือนได้เดินเข้าสู่ภายในอาณาบริเวณใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์ในราชจักรีวงศ์ โดยนิทรรศการส่วนแรกนี้จะแนะนำผู้ชมได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ ต้นธารอภิบาลถิ่น การแพทย์และสาธารณสุขไทยใต้ร่มพระบารมีบรมราชจักรีวงศ์ ผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ที่นำเสนอภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์พัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุขไทยในกรุงรัตนโกสินทร์ พระราชกรณียกิจและเหตุการณ์ที่สำคัญทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี พระราชดำริในการดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรด้านการแพทย์การสาธารณสุข ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ยังผลให้อาณาประชาราษฎร์มีสุขภาพอนามัยที่ดี
ในส่วนของห้องที่สองจัดแสดงเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพ พระปรีชาสามารถทั้งเชิงศาสตร์และศิลป์ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทั้งในด้านการศึกษา การพัฒนาคุณภาพชีวิต การแพทย์ การพยาบาล และการสาธารณสุขของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด กระแสสินธุ์แห่งรัก ราชสกุล “มหิดล” รากฐานสร้างการแพทย์และการสาธารณสุขไทยให้ทัดเทียมสากล และการสืบสานพระราชปณิธานในการดำเนินงานของศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทางด้านการศึกษา การแพทย์และการสาธารณสุข พระดำริในการจัดสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ส่วนต่อขยายขนาด ๔๐๐ เตียง การจัดตั้งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อเป็นสถาบันการศึกษาสร้างแพทยศาสตรบัณฑิตที่เป็นผู้นำและนักวิจัยทางวิชาชีพด้านสุขภาพ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการแพทย์ การสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม และที่มาของแนวพระดำริในการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ อาคารกรมพระศรีสวางควัฒน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และพระราชานุสาวรีย์ ณ อาคารวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งในส่วนนี้ได้จัดแสดงประติมากรรมต้นแบบ พระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และประติมากรรมต้นแบบ พระรูปหล่อสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่กับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งทรงมีพระวินิจฉัยเลือกพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งสององค์ เป็นภาพถ่ายแบบสองมิติ พระราชทานให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำมาจัดสร้างเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์และพระราชานุสาวรีย์ เป็นผลงานประติมากรรมแบบสามมิติสองชิ้นงาน ด้วยมีพระประสงค์ส่งต่อถ่ายทอดประวัติศาสตร์ผ่านงานศิลปะ สื่อสัญลักษณ์ความหมายอันเป็นมิ่งมหามงคล เป็นขวัญและกำลังใจพร้อมกับการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าอย่างหาที่สุดมิได้
ภายในหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยังได้จำลองวัตถุจัดแสดงผลงานทรัพย์สินทางปัญญาในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะที่ทรงเป็นพระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย อันแสดงถึงพระปรีชาสามารถในการศึกษา ค้นคว้า และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวของโลก ที่ได้รับการถวายการรับจดทะเบียนสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร ทรงเป็นแบบอย่างในการเป็นนักประดิษฐ์คิดค้น สร้างสรรค์ และพัฒนาเทคโนโลยีของไทยขึ้นมาใช้เอง และจำลองวัตถุจัดแสดงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการแพทย์และการสาธารณสุข อาทิ “เรือเวชพาหน์” โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทางน้ำพระราชทาน โครงการหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน ฯลฯ อันแสดงถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพอนามัย โดยทรงมุ่งหวังให้ประชาชนชาวไทยได้มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงในทุกถิ่นฐาน รวมทั้งการประมวลภาพถ่ายแห่งความทรงจำเพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ สะท้อนถึงพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลอันแสดงให้เห็นถึงความผูกพันที่ลึกซึ้งระหว่างพระองค์กับราษฎรผ่านการเสด็จพระราชดำเนินไปในพื้นที่ต่าง ๆ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชโอรสและพระราชธิดาโดยเสด็จด้วยจึงทำให้ทุกพระองค์ทรงซึมซับและทอดพระเนตรเห็นความยากลำบากตลอดจนปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนด้วยพระองค์เอง ทรงเป็นต้นแบบและทรงเป็นแรงบันดาลพระทัยแก่พระราชโอรสและพระราชธิดาทุกพระองค์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตตลอดจนทรงวางรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
โอกาสนี้ ทรงฉายพระฉายาลักษณ์ ด้านหน้าหอจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พร้อมคณะ จำนวน ๒ ชุด โดยมีคณะผู้บริหาร บุคลากร นักศึกษาของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมเพรียงเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ในการนี้ ทรงลงพระนามาภิไธยลงในสมุดที่ระลึก ตามลำดับ































