ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา Asian Medical Students’ Exchange Programme 2024 สำหรับนักศึกษาแพทย์ไทยและอินโดนีเซีย

เมื่อวันอังคารที่ 14 – วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ร่วมกับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรมโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา Asian Medical Students’ Exchange Programme 2024 โดยมีนักศึกษาแพทย์จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์จำนวน 10 คน ในชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 3 ได้เป็นผู้กำหนด รับผิดชอบ และดำเนินกิจกรรมสำหรับนักศึกษาแพทย์สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน และสร้างบัณฑิตให้มีความเป็นเลิศ มีความพร้อมในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพในอนาคต ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก AMSA สาธารณรัฐอินโดนีเซียเป็นอย่างดี โดยมีคณาจารย์และทีมแพทย์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมให้การต้อนรับ


โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษา Asian Medical Students’ Exchange Programme 2024 ที่จัดขึ้นครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดประสบการณ์ให้นักศึกษาแพทย์ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาการ และเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีงามของไทย รวมถึงเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียนของนักศึกษา และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พบปะและสร้างเครือข่ายกับนักศึกษาแพทย์จากสถาบันการศึกษาในระดับนานาชาติ ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นในระดับนานาชาติ โครงการฯ ดังกล่าว ได้จัดเตรียมคณาจารย์ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และนักศึกษาแพทย์จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน ดูแลต้อนรับนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย จำนวน 20 คน เข้าร่วมศึกษาดูงานทางด้านการแพทย์ การวิจัย และนวัตกรรมทางการแพทย์ พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมและเพิ่มพูนประสบการณ์กับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โอกาสนี้นักศึกษาจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้ร่วมทำกิจกรรมด้านวิชาการ งานวิจัยและ Innovation ideas เกี่ยวกับ Cancer , Marketing Strategies และเยี่ยมชมศูนย์การแพทย์ต่างๆ ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ อาทิ ศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ ศูนย์สุขภาพสตรี ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์กระดูกและข้อ ฯลฯ ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

วิทยาลัยแพทยศาสตร์ศรีสวางควัฒน และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มีพันธกิจด้านการผลิตบัณฑิตแพทย์และการสาธารณสุข ที่มีคุณภาพทางวิชาการและสมรรถนะทางวิชาชีพที่เป็นเลิศ โดยความร่วมมือด้านการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยร่วมกัน ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จึงเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและสร้างบัณฑิตให้มีความเป็นเลิศต่อไป