ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ชี้ให้เห็นว่า สงคราม COVID-19 ครั้งนี้ ได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อโอมิครอนได้กลายมาเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศไทย โดยให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนป้องกันตนเองไว้ว่า
“แม้ว่าจะไม่มีวัคซีนชนิดใดสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนนี้ได้ดีพอในทุกช่วงอายุ แต่การได้วัคซีนอย่างน้อย 3 เข็มก็สามารถป้องกันการเกิดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตได้ดีมากๆ เหมือนกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนชนิดใด สำหรับสายพันธุ์โอมิครอน ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคเรื้อรังทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม ก่อนเข้าสู่เดือนเมษายนนี้ เพราะจะเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีการเคลื่อนที่ของคนมาก เนื่องจากมีเทศกาลเช็งเม้งและสงกรานต์ เพราะประชากรในกลุ่มนี้จะมีโอกาสเสี่ยงในการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ หากได้วัคซีนแค่ 2 เข็ม หรือน้อยกว่านั้น นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากสหรัฐอเมริกาที่รายงานว่าในเด็กอายุ 5-11 ปี การได้รับวัคซีน mRNA 2 เข็มไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ดีพอ สองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ควรจะรณรงค์ฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรังโดยไปให้ถึงตัว ทำความเข้าใจ อธิบายให้ง่าย ๆ ให้ยอมเข้ารับวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 3 เข็ม”
#
🏥 ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ CRA Hall เปิดฉีดวัคซีน Pfizer หรือ AstraZeneca เข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ตั้งแต่วันนี้ -31 มีนาคม 2565 (เปิดบริการจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-15.00 น.)
📲ลงทะเบียนนัดฉีดทางเว็บไซต์ https://vaccinecovid19.cra.ac.th กดเมนู วัคซีนหลัก > ลงทะเบียนนัดหมายคิวฉีดวัคซีนหลัก และบันทึก QR Code เพื่อนำมาติดต่อรับวัคซีนตามวัน – เวลาที่ได้นัดหมายไว้
🏥เข้ารับวัคซีนได้ที่ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ CRA Hall ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 7 Map >> https://goo.gl/maps/JWEzM4RYPVCaR1op8