วันอังคารที่ 24 กันยายน 2567 : ด้วยในวันที่ 24 กันยายนของทุกปี ตรงกับ “ วันมหิดล” ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย” ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ออกให้บริการตรวจรักษาโรคและมอบกระเป๋ายาพระราชทาน จำนวน 400 ชุดให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีนายแพทย์ดำรงค์ สุกิจปัญญาโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานในพิธี และมีนางสาวสุพัตรา คล้ายทิม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย นายอำเภอคลองลาน หัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมกล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณของ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก โดยทรงห่วงใยในสุขภาพอนามัยและความเป็นอยู่ของราษฎรทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ยากไร้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีความเท่าเทียมและทั่วถึง ทั้งนี้ ประธานในพิธีได้เชิญกระเป๋ายาพระราชทานมอบแก่รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อนำไปมอบให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป จากนั้น ได้เยี่ยมชมการให้บริการของหน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงและผู้สูงอายุ จำนวน 4 ราย ซึ่งประกอบด้วย
- นางนงเยาว์ พานไทย อายุ 74 ปี ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง โรคถุงลมโป่งพอง โรคไต ระยะที่ 3
- นางดำ บัวยัง อายุ 81 ปี ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง โรคไต ปอดติดเชื้อ เจาะคอ ให้อาหารทางสายยาง ไม่สามารถพูดได้ ไม่มีอาการหลงลืม
- นายนอง คุดบุญคุณ อายุ 74 ปี ป่วยด้วยโรคเบาหวาน โรคไทรอยด์
- นางแตะ ดีเสือ อายุ 85 ปี ป่วยด้วยโรคความดันโลหิตสูง พิการติดเตียง
โดยในวันนี้ มีผู้เข้ารับบริการตรวจสุขภาพรวมจำนวน 764 ราย กลุ่มโรคที่พบมาก 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ระบบจักษุ 664 ราย 2.ระบบกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ 171 ราย 3.ระบบประสาท 72 ราย 4.ระบบทางเดินอาหาร 58 ราย 5.ระบบทางเดินหายใจ 37 ราย และผู้ป่วยที่ได้รับการส่งต่อ 18 ราย ยังความปลื้มปีติแก่ประชาชนผู้เข้ารับบริการ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงเป็นต้นราชสกุล มหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2434 เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2472 ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยอย่างไพศาล โดยเฉพาะในด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ทรงอุทิศกำลังพระวรกายและพระหฤทัย ตลอดจนทรัพย์สินส่วนพระองค์เพื่อการแพทย์ไทยอย่างมากมาย ทรงเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ ทรงช่วยเหลือในการขยายกิจการของโรงพยาบาลศิริราช พระราชทานเงินสร้างตึกคนไข้ พระราชทานทุนส่งนักเรียนแพทย์และนักเรียนพยาบาลไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เป็นผลทำให้กิจการแพทย์และสาธารณสุขของไทยเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ