สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ลงพื้นที่เสี่ยง เร่งฉีดวัคซีนโควิด ๑๙ ภาคสนามให้กับบุคลากรทางการศึกษาและประชาชนทั่วไป ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัด

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ลงพื้นที่เสี่ยง เร่งฉีดวัคซีนโควิด ๑๙ ภาคสนามให้กับบุคลากรทางการศึกษาและประชาชนทั่วไป ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัด

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ทรงห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ โปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดย พลอากาศตรี นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยนายแพทย์ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นำหน่วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ประกอบด้วยทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์และทีมจิตอาสาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ลงพื้นที่ภาคสนามในเขตชุมชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นำร่องฉีดวัคซีนโควิด ๑๙ ให้แก่บุคลากรทางการศึกษาและประชาชนทั่วไปของจังหวัดปทุมธานี จำนวนกว่า ๒,๕๐๐ ราย โดยมี พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานีให้การต้อนรับและเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด ๑๙ ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด๑๙ ที่ทวีความรุนแรงและขยายเป็นวงกว้าง ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด๑๙ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดปทุมธานีถือเป็นหนึ่งในพื้นที่กลุ่มเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี จึงโปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดหน่วยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในจังหวัดปทุมธานี จำนวนกว่า ๒,๕๐๐ ราย ทั้งนี้ อบจ.ปทุมธานี ได้จัดเตรียมพื้นที่สำหรับการฉีดวัคซีน ณ อาคารหอประชุม อบจ.ปทุมธานี และจัดตั้งเต้นท์บริเวณด้านข้าง สำหรับบริการประชาชนที่รับการฉีดวัคซีนแล้วพักสังเกตอาการ ๓๐ นาที สำหรับกลุ่มผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ ทาง อบจ. ปทุมธานี เน้นจัดสรรให้กับบุคลากรทางการศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้ารับบริการฉีด โดยแบ่งเป็น ๒ ช่วง คือ ช่วงเช้า ๑,๐๐๐ คน และช่วงบ่าย ๑,๐๐๐ คน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ประชาชนชาวจังหวัดปทุมธานี