20 กันยายน 2567 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยฝ่ายโครงการตามพระดำริและงานส่วนพระองค์ จัดกิจกรรมธรรมบรรยาย ถวายพระกุศลแด่ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในหัวข้อ 🌼งานนอกงอกงาม งานในเยือกเย็น โดยได้รับความเมตตาจาก พระสุธีวชิรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เลขานุการประธานกรรมการอบรมประชาชนกลาง (อ.ป.ก.) เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี เป็นพระธรรมวิทยากร บรรยายธรรมแก่บุคลากรราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และพุทธศาสนิกชนผู้ที่สนใจ โดยมี ดร.ฐากูร พานิช รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นประธานในพิธี กิจกรรมจัดขึ้น ณ โถงชั้น 1 ด้านหน้ามูลนิธิศรีสวางควัฒน ในพระอุปถัมภ์ ฯ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ขนาด 400 เตียง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
ธรรมบรรยายครั้งนี้ มีความโดยย่อ คือ ขอให้ยึดถือหลักการทำงาน ดังพระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ว่า “…หลักการสำคัญประการหนึ่ง ที่ จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จและ เจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือ การไม่ทำตัวทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตาและไมตรี ยินดี ประสานสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ร่วม งานอย่างจริงใจ…’’ และหลักในการทำงาน ตามคำสอนของสมเด็จย่า ที่พระราชทานไว้ว่า “ การทำงานกับคนหมู่มากจะไม่สำเร็จได้ ถ้าไม่ฝึกทัศนคติในการมองคนในแง่ดี เพราะแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่อง …. คนแต่ละคนมีความดีบริสุทธิ์ไม่ทั้งหมด เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะมีข้อบกพร่องบ้างก็ต้องยอมรับ นี่คือสภาพของคนปกติ คนจริงๆ ต้องมีข้อไม่ดีอยู่บ้าง เพราะฉะนั้น ขอให้มองกันในแง่ดี แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ” เปรียบเป็นหลักใจในการทำงาน 3 ส่วน คือ ฟ้า ดิน น้ำ , ฟ้า เปรียบดัง เรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ทันที , ดิน เปรียบดัง สิ่งแวดล้อมการทำงาน และ คน เปรียบดัง ตัวเราและเพื่อนร่วมงาน อีกหัวข้อในการบรรยาย คือ งานใน ขอให้รู้ใจเขา รู้ใจเรา รู้ร้อน รู้หนาว รู้ผ่อนสั้น ผ่อนยาว เท่าไหน เท่านั้น มีจิตใจที่เมตตาซึ่งกันและกัน พร้อมมีความเพียรในการทำงาน นั่นคือ เพียรดี เพียรทำและเพียรทน ผนวกกับการมีความเก่งในการทำงานและมีกาลเทศะ คือ รู้งานดี ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง ทำงานด้วยความซื่อสัตย์และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทั้งนี้เพื่อความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าในการทำงาน
สำหรับการบรรยายธรรมครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งพันธกิจหลักของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการร่วมสืบสาน ส่งเสริมและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ศีลธรรมอันดีงามของไทย รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้บุคลากรราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา พร้อมนำมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข