23 มกราคม 2568 ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และศาลล้มละลายกลาง ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือทางด้านวิชาการและการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ระหว่างสองหน่วยงาน โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พร้อมด้วย นายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ รักษาการรองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ , รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ , นายพสุ แก้วตระกูลพงษ์ รองประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง , นายสันทัศน์ นิภาวงศ์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลล้มละลายกลาง ร่วมพิธีลงนาม ณ ห้องประชุมใหญ่ MC232 ชั้น 3 ณ สำนักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
สำหรับการลงนามบันทึกความร่วมมือทางด้านวิชาการและการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข ระหว่างราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ กับศาลล้มละลายกลางในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อยืนยันเจตจำนงความร่วมมือภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานให้สอดคล้องเชื่อมโยงกัน อันจะเป็นการร่วมกันในการส่งเสริม สนับสนุนเกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์และการสาธารณสุข โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์พร้อมให้บริการด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพแก่ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมในสังกัดศาลล้มละลายกลาง เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงการดูแลรักษาสุขภาพที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักล้มละลาย และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีล้มละลายจากคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลางให้แก่บุคลากรของทั้งสองฝ่ายและประชาชน และการบูรณาการความร่วมมือทางด้านวิชาการ การฝึกอบรม การบรรยายพิเศษ การสัมมนาทางวิชาการ การศึกษาวิจัย และการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางกฎหมาย ข้อมูลทางวิชาการ วิทยากร นักวิชาการ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากทั้งสองหน่วยงาน โดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และพระปณิธานใน ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่ทรงจัดตั้งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนการสอน การวิจัยขั้นสูงที่จะสร้างบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ในสาขาที่ขาดแคลนและมีความจำเป็นต่อสังคมไทยและนานาชาติ ทั้งด้านการแพทย์ การสาธารณสุข วิทยาศาสตร์สุขภาพและเทคโนโลยี พร้อมทั้งให้บริการสุขภาพแก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การนำวิทยาการขั้นสูงและนวัตกรรมไปใช้ในการดูแลคนไทยให้สามารถเข้าถึงสุขภาวะที่ดีอย่างเท่าเทียม ภายใต้ปรัชญาการดำเนินงาน “เป็นเลิศเพื่อทุกชีวิต”