๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๘ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ บูรณาการความร่วมมือ จัดโครงการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพื่อถวายเป็นพระกุศลและเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานและนายกสภาราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชันษา ๖๘ ปี โดยมีประชาชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์เข้ารับบริการตรวจ จำนวน ๑๖๘ ราย มีนายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยแพทย์หญิงกันต์สุดา ปัญจชัยพรพล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ นายแพทย์วรวัฒน์ แสงวิภาสนภาพร หัวหน้างานอายุรกรรมทางเดินอาหารและตับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ พร้อมด้วยทีมแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมโครงการฯ ณ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
ด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องของโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยจำนวนมาก ด้วยพระวิสัยทัศน์และพระปณิธานในการช่วยเหลือประชาชนชาวไทย ให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและทันสมัยเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันและรักษามะเร็ง จากพระปณิธานทรงมีพระดำริ ให้จัดตั้งราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษา วิจัย และบริการทางการแพทย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านมะเร็งวิทยา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน
โครงการความร่วมมือตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์และโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระกุศลและเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชันษา ๖๘ ปี จำนวน ๑๖๘ ราย เป็นหนึ่งในโครงการที่มีความสำคัญต่อสุขภาพของประชาชนในวงกว้าง ทั้งนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่สี่ของประชากรทั่วโลก ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ และเป็นอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยสามารถพบได้ในทุกอายุ ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งเสริมให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีประวัติมะเร็งลำไส้ใหญ่ในครอบครัว โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง การดื่มสุราและสูบบุหรี่ และจากการศึกษาในปัจจุบัน พบว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่จะเริ่มต้นจากการเกิดติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่ขนาดเล็ก แล้วค่อย ๆ มีการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นมะเร็งในระยะเวลา ๕-๑๐ ปี จากนั้นจึงลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ โดยในช่วงแรกมักไม่มีอาการผิดปกติ ดังนั้น การตรวจคัดกรองและกำจัดติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่จึงเป็นวิธีที่สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือหากตรวจพบมะเร็งก็จะพบได้ตั้งแต่เริ่มแรกจะช่วยลดโอกาสการแพร่กระจายของโรค และการรักษาก็จะได้ผลยิ่งขึ้น สำหรับสถานการณ์โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ พบมากเป็นลำดับ ๒ ของโรคมะเร็งที่พบทั้งในเพศชายและเพศหญิง ในปี ๒๕๖๗ พบผู้ป่วยรายใหม่ ๔๐๗ ราย เป็นเพศชาย ๒๐๕ ราย เพศหญิง ๒๐๒ ราย และมีอัตราการเสียชีวิต ๔.๘๘ ต่อแสนประชากร และพบว่าผู้ป่วยมารับการรักษาในระยะลุกลาม ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการดำเนินงานเชิงรุกทั้งด้านการให้ความรู้ การรณรงค์ส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพและที่สำคัญ คือ การคัดกรองกลุ่มเสี่ยงให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึง จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยสำนักงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีการดำเนินกิจกรรมด้านการส่งเสริมสุขภาพและตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เช่น การตรวจหาเลือดในอุจจาระ(FIT test) สำหรับประชาชนอายุ ๕๐-๗๐ ปี ถ้าพบว่าผลตรวจอุจจาระเป็นผลบวก จะได้รับการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
อนึ่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ได้รับความร่วมมือจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำโครงการความร่วมมือส่องกล้องตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ครั้งแรก เมื่อปี ๒๕๖๕ มีประชาชนมารับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ทั้งหมด ๓๒๑ ราย มีการตัดติ่งเนื้อได้ทั้งสิ้น ๑๔๕ ราย พบเป็นติ่งเนื้อที่มีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ ๙๖ รายและพบมะเร็งลำไส้ใหญ่ ๕ ราย และในปี ๒๕๖๘ นี้ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้รับความร่วมมือจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ในการจัดทำโครงการส่องกล้องตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกครั้ง และจากการดำเนินการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ภายใต้โครงการความร่วมมือตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ฯ ในวันแรก พบผู้เข้ารับการตรวจจำนวน ๑๗ ราย ที่มีชิ้นเนื้อผิดปกติซึ่งจำเป็นต้องทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อนำส่งตรวจวิเคราะห์ทางพยาธิวิทยาต่อไป
นับเป็นพระกรุณาธิคุณแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์อย่างยิ่ง ทั้งยังประโยชน์ให้ประชาชนได้เข้าถึงการบริการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างรวดเร็วและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ช่วยลดอัตราการป่วยและอัตราการเสียชีวิต สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชนชาวไทยสมดังพระปณิธาน