จอประสาทตา ภัยเงียบที่ไม่อาจหวนคืน

ปัจจุบันมีวิธีการรักษาที่หลากหลาย เช่น โรคเบาหวาน หรือวุ้นตา จะมีวิธีการยิงเลเซอร์ ฉีดยาเข้าวุ้นตา หรือการผ่าตัดวุ้นตา และจอตา เรามีเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา พร้อมฉีดสีแบบ 200 องศา ซึ่งเป็นการถ่ายภาพมุมกว้าง ครอบคลุม 80% ของ จอตา ทำให้เห็นรอยโรคในระยะแรกเริ่มได้  เครื่องถ่ายภาพตัดขวางจอตา ทำให้เห็นว่าแต่ละชั้นของจอตาเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง เครื่องถ่ายภาพเส้นเลือดจอประสาทตาแบบไม่ต้องฉีดสีช่วยให้การวินิจฉัยถูกต้องแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้การรักษา มีประสิทธิภาพสูงสุด  

♦ โรคทางจอประสาทตา คืออะไร แล้วความน่ากลัวของมันคืออะไร

โรคทางจอประสาทตา เราถือได้ว่าเป็นภัยเงียบที่น่ากลัว เพราะความผิดปกติจะเกิดขึ้นบริเวณรอบๆ หรือขอบๆ เราอาจจะไม่รู้เลยจนกระทั่งมาตรวจ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญของโรคจอประสาทตา คือ ต้องตรวจ กล้องทำงานเหมือนตา จอประสาทตาเหมือนเซนเซอร์ของกล้อง ซึ่งเมื่อมีการรับภาพก็จะส่งสัญญาณภาพไปยังขั้วประสาทตาแล้วไปยังสมองเพื่อแปรภาพ ฉะนั้นต่อให้คุณมีเลนส์ดีแค่ไหน แต่จอตาคุณเสียก็เท่ากับภาพไม่ชัดบางท่านภาพดับไปเลย มองไม่เห็นอีกเลย ซึ่งถ้าช้าเกินไป การมองเห็นอาจจะไม่กลับคืนมา

♦ ใครบ้างที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่คนที่เป็นโรคเบาหวาน  โดยเฉพาะคนที่คมเบาหวานไม่ดี คนที่เป็นโรคความดันสูงอาจทำให้จอตามีเส้นเลือดผิดปกติหรือมีเลือดออกในตาได้ คนที่สายตาสั้นมากๆ มีพันธุกรรมในครอบครัวเป็นโรคจอตาอยู่เดิม คนที่เคยได้รับอุบัติเหตุ หรืออาการบางอย่าง มีจุดดำลอยไปมา มีฟ้าแลบในตา หรือมีม่านดำๆ มาบัง อาจเป็นภาวะเริ่มต้นของจอตาหลุดลอกได้ ซึ่งต้องรีบรักษา

♦ เราจะสามารถสังเกตตัวเองได้อย่างไร

อาจใช้วิธีการทดสอบโดย ลองปิดตาทีละข้าง เพื่อจะดูว่าตาข้างหนึ่งขอเรายังดีอยู่หรือไม่ เพราะในบางครั้ง ตาข้างนึงไม่เห็นแล้ว แต่เรายังไม่รู้สึกอะไร เพราะมีอีกข้างเค้าช่วยอยู่ เพราะฉะนั้นจึงอยากให้ปิดตาดูทีละข้างเพื่อเซ็กว่า วันนี้เรายังเห็นเท่าเดิมนะ ความกว้างของลานสายตายังเท่าเดิม ไม่มีฟ้าแลบ ไม่มีจุดดำลอยไปมา หรือมีจุดดำโผล่มาแล้วไม่ได้หายไปไหน ถ้ามีอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์

บทความโดย : นายแพทย์ธัชปชา  กะสีวัฒน์

จักษุแพทย์สาขาจอประสาทตาและวุ้นตา

คลินกจักษุ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์