ผลการศึกษาจากสหราชอาณาจักรถึงประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ทั้งสองยี่ห้อเมื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) ต่อการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเมื่อเทียบกับการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า

ผลการศึกษาจากสหราชอาณาจักรถึงประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA ทั้งสองยี่ห้อเมื่อใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) ต่อการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเมื่อเทียบกับการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นในภาวะที่มีการระบาดอย่างมากของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน

เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร ได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์และผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ในรายงานฉบับนี้มีการกล่าวถึงการศึกษาที่แสดงถึงผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่มีต่อประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มประชากรผู้ใหญ่ที่ได้รับวัคซีนสูตรหลักครบ 2 เข็ม และในกลุ่มที่ได้รับวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นซึ่งเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 จากการเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 – 6 มกราคม 2565

จากการวิเคราะห์กลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 236,023 ราย และผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าจำนวน 760,647 ราย พบว่าประสิทธิผลของวัคซีนโควิด-19 ต่อการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบมีอาการที่เกิดจากเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน และสายพันธุ์เดลต้าในช่วงเวลาต่างๆภายหลังจากฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม และ 3 เข็ม นั้นมีความแตกต่างกันอย่างมาก ดังแสดงในกราฟ โดยในผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตรหลักเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าจำนวน 2 เข็ม ประสิทธิผลที่มีต่อสายพันธุ์โอไมครอน (ชุดข้อมูลวงกลมสีเทา) มีระดับที่ต่ำกว่าสายพันธุ์เดลต้า (ชุดข้อมูลสี่เหลี่ยมจตุรัสสีดำ) เป็นอย่างมาก และต่ำกว่าในทุกช่วงเวลาที่ทำการประเมิน ที่สำคัญการได้รับวัคซีนโควิด-19 สูตรนี้จำนวน 2 เข็ม ประสิทธิผลต่อการป้องกันการติดเชื้อโอไมครอนแบบมีอาการแทบจะไม่เหลืออยู่เลยเมื่อเวลาผ่านไป 20 สัปดาห์

อย่างไรก็ดี พบว่า การได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น mRNA เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ในกลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สูตรหลักเป็นวัคซีนแอสตร้าเซเนก้านี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิผลของในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนให้ดีขึ้นกว่าเดิม กล่าวคือ ระดับประสิทธิผล หลังจากได้วัคซีนเข็มกระตุ้นไฟเซอร์ (ลูกศรสีน้ำเงิน) หรือวัคซีนเข็มกระตุ้นโมเดอร์น่า (ลูกศรสีแดง) จะสูงกว่า 60% ภายหลังจากได้วัคซีนเข็มที่ 3 นี้ผ่านไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ จากนั้นประสิทธิผลในการป้องกันจะมีแนวโน้มลดระดับลงเมื่อเวลาผ่านไป โดย เมื่อเวลาผ่านไป 5-9 สัปดาห์ ประสิทธิผลของวัคซีนเข็มกระตุ้นไฟเซอร์จะลดลงมาที่ต่ำกว่า 60% (ลูกศรเส้นประสีน้ำเงิน) ในขณะที่ประสิทธิผลของวัคซีนเข็มกระตุ้นโมเดอร์น่ายังคงสูงกว่าเล็กน้อย คือที่ประมาณ 60% (ลูกศรเส้นประสีแดง)

ประสิทธิผลของการได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อการป้องกันการติดเชื้อโอไมครอนประเภทที่ต้องได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ คือ สามารถป้องกันได้ 83% เมื่อเวลาผ่านไปอย่างน้อย 10 สัปดาห์

แหล่งที่มาของข้อมูล