มะเร็งลำไส้ใหญ่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับ 3
ซึ่ง 90% เกิดกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป และสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม

ปัจจัยเสี่ยง
- มีประวัติเนื้องอก ซึ่งเนื้องอกบางชนิดอาจกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
- 90% มักเกิดกับคนที่อายุมากกว่า 50 ขึ้นไป แต่ก็อาจพบได้ในวัยหนุ่มสาว
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ้าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนอายุ 60 ปีจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- ไม่ออกกำลังกายและความอ้วน
- การสูบบุหรี่

สัญญาณเตือน
- ท้องผูกหรือท้องเสียเป็นประจำ
- ท้องผูกสลับท้องเสีย
- อุจจาระมีเลือดปน
- ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ อึดอัดท้อง
- คลำเจอก้อนในท้อง
- น้ำหนักตัวลดผิดปกติ
ตรวจคัดกรองพบตั้งแต่ระยะแรก สามารถรักษาโรคให้หายได้

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
บุคคลทั่วไป ควรเริ่มตรวจที่อายุ 50 – 75 ปี โดยการตรวจได้หลายแบบ ได้แก่
- การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทั้งหมด (colonoscopy) ทุก 10 ปี
- การส่องกล้องตรวจลำไส้ส่วนปลายและทวารหนัก (flexible sigmoidoscopy) ทุก 5 ปี
- การตรวจอุจจาระ โดยอาจร่วมกับส่องกล้องลำไส้ส่วนปลายและทวารหนัก ทุก 5 ปี
- การตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ CT colonography ทุก 5 ปี
อายุ 76 – 84 ปี สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทราบข้อดี ข้อเสีย ของการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนตัดสินใจ

แนวทางการรักษา
- การรักษาแบบผ่าตัด เป็นการรักษาหลักที่แพทย์มักใช้ในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งเกิดบริเวณส่วนใด รุนแรงมากน้อยแค่ไหน การรักษาด้วยการผ่าตัดมักต้องรักษาควบคู่กับการทำเคมีบำบัด อาจเป็นก่อนหรือหลังการผ่าตัดก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เพื่อช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- การรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือที่รู้จักกันในชื่อของ คีโม เป็นการใช้ยาในหลายรูปแบบ เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตหรือทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยเป็นวิธีการรักษาที่อาจใช้หลังการผ่าตัด เนื่องจากเซลล์มะเร็งได้มีการลุกลามเข้าไปในต่อมน้ำเหลือง และช่วยลดความเสี่ยงในการกลับมาของเซลล์มะเร็งได้ หรืออาจใช้ก่อนวิธีการผ่าตัด เพื่อให้เซลล์มะเร็งมีขนาดเล็กลง ในผู้ป่วยที่มีการกระจายของเซลล์มะเร็งไปทั่วร่างกายจะช่วยบรรเทาอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- การฉายรังสี เป็นวิธีการรักษาที่ใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะต้น ๆ โดยการฉายรังสีพลังงานสูงเข้าไปบริเวณที่มีก้อนมะเร็ง เพื่อช่วยลดขนาดของก้อนเนื้องอกให้เล็กลงก่อนการรักษาด้วยการผ่าตัด หรือใช้กำจัดเซลล์มะเร็งที่อาจเติบโตขึ้นมาใหม่หลังการผ่าตัด รวมไปถึงบรรเทาอาการที่เกิดจากโรค วิธีนี้มักใช้รักษาผู้ป่วยควบคู่กับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
- การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง เป็นวิธีการดูแลผู้ป่วยที่มุ่งเน้นในการบรรเทาความเจ็บปวดและอาการร้ายแรงอื่น ๆ ที่ทำให้ทุกข์ทรมาน ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ แพทย์ พยาบาล รวมไปถึงครอบครัวของผู้ป่วยเอง โดยจะใช้ควบคู่กับวิธีการรักษาอื่นที่เหมาะสมไปด้วย เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น มีชีวิตที่ยาวนานขึ้น รวมไปถึงมีคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัว