PM 2.5 ฝุ่นร้ายทำลายสุขภาพ

รู้หรือไม่ ? ฝุ่น PM2.5 ทำร้ายสุขภาพได้มากกว่าที่คิด!

   ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัดต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ เนื่องจากฝุ่นละอองชนิด PM2.5 ที่เกินระดับมาตรฐานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรามาทำความรู้จักกับฝุ่น PM2.5 และวิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยกันเถอะ

PM2.5 คืออะไร?

PM2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ถึง 20 – 30 เท่า โดยมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้ เช่น ควันจากการจราจร การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ โรงงานอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง ไฟป่า และจากการเผาขยะหรือพืชผลทางการเกษตร

PM 2.5 ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?

เนื่องจาก PM 2.5 เป็นฝุ่นขนาดเล็กมาก เมื่อเราหายใจเข้าไป ฝุ่นชนิดนี้จะสามารถเข้าสู่ปอดและแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ดังนี้

ผลกระทบในระยะสั้น

เมื่อมีการสัมผัสกับฝุ่น PM2.5 ในระยะสั้น เช่น ภายในไม่กี่ชั่วโมงถึงไม่กี่วัน ผู้คนอาจรู้สึกอาการระคายเคืองที่ตา จมูก คอ หรือผิวหนัง ไอ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก รวมถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบหายใจและหัวใจ เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) หรือแม้แต่โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้

ผลกระทบในระยะยาว

การสัมผัสกับฝุ่น PM2.5 ต่อเนื่องในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มะเร็งปอด และอาจเสี่ยงต่อการมีปัญหาทางสมอง เช่น ภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล อีกทั้งยังสามารถส่งผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์และเด็ก โดยสามารถทำให้ทารกมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำ หรือพัฒนาเป็นหอบหืดได้ในภายหลัง

 กลุ่มเสี่ยงที่ควรระวังเป็นพิเศษ

เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดต่อผลกระทบต่อสุขภาพจาก PM2.5 มากกว่าคนทั่วไป 

ได้แก่

  1. ผู้หญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์
  2. เด็กเล็กและผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี
  3. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, โรคอ้วน หรือมะเร็งปอด
  4. ผู้ที่สูบบุหรี่หรือเคยสูบบุหรี่

การดูแลสุขภาพในช่วงที่ค่าฝุ่น PM2.5 สูงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจ เพราะฝุ่น PM2.5 มีผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่นและการใช้เครื่องมือป้องกัน เช่น หน้ากากและเครื่องฟอกอากาศ สามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ หากคุณมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หรือไอเรื้อรัง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

สุขภาพของคุณเริ่มต้นที่การดูแลตัวเอง และการป้องกันจากฝุ่น PM2.5 คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีของคุณและครอบครัว

พญ.ณัทญา ตรีภูริเดช

แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤตโรคระบบการหายใจ